ฤกษ์ดีวันที่ 1 ม.ค. 2563 จะมีการประกาศใช้ราคาประเมินใหม่จากราชการ ทั่วทั้งประเทศปรับขึ้น 10-15%
แล้วราคาประเมินมีผลกับเรายังไง ?
ต้องบอกเลยว่ามีผลเต็มๆ เพราะราคาประเมินนี้ใช้เป็นเกณฑ์ในการ คิดคำนวณค่าโอน เวลาเราทำนิติกรรมการซื้อขาย ขอยกตัวอย่างเพื่อให้เห็นภาพ คือ
ค่าโอนในการที่สำนักงานที่ดินมีทั้งหมด 3 รายการ ได้แก่
1.ค่าธรรมเนียมโอน 2%
2.ภาษีเงินได้
3.ธุรกิจเฉพาะ หรือ อากรแสตมป์
นั่นหมายความว่า ค่าธรรมเนียมโอนและภาษีรายได้ ซึ่งจะคำนวณราคาโดยอิงจากราคาประเมิน จะเพิ่มสูงขึ้นเนื่องมาจากราคาประเมินที่เพิ่มสูงขึ้นนั่นเองจ้า ส่วนภาษีธุรกิจเฉพาะและอากรแสตมป์ไม่เกี่ยวค่ะ เพราะภาษีส่วนนี้จะอิงจากราคาซื้อขายจริงค่ะ
…ทีนี้มาดูกันนะคะ ว่าทำเลไหนเป็นแชมป์ราคาสูงที่สุด นั่นก็คือ
แนวรถไฟฟ้าบีทีเอสแพงสุดวาละ 1 ล้าน ย่าน “พระราม 1-เพลินจิต-วิทยุ”
ราคาอัพเท่าถนนสีลมแชมป์เก่า
… “สุขุมวิท” ขยับยกแผง แยกอโศก 15%
จากวาละ 6.5 แสนเป็น 7.5 แสน
ส่วนฝั่งธนฯ-ทำเลรถไฟฟ้าสายใหม่-เมืองนนท์-ปทุม-EEC ต้องรอรอบหน้าปี”64
นอกจากนี้ การบังคับใช้
พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างฉบับใหม่ที่จะเริ่มจัดเก็บกันในปีหน้า
ก็จะใช้ราคาประเมินใหม่นี้นั่นแหล่ะในการคิดคำนวณภาษีอีกด้วย รู้แล้ว
วางแผนได้เลย เช่น ใครเป็นเจ้าของบ้านมากกว่า1
ชื่อของเจ้าของโฉนดต้องอยู่ในทะเบียนบ้านหลังที่แพงที่สุดนะจ้ะ
หรือถ้าจะประหยัดค่าโอนขายในปีนี้ค่าโอนก็จะถูกกว่าปีหน้านะคะ บอกเลยจ้า
ขอขอบคุณภาพจาก ฐานเศรษฐกิจ